พอตไฟฟ้า จุดเริ่มต้นเส้นทางสายควัน ตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความสะดวกสำหรับนักสูบยุคใหม่
พอตไฟฟ้า อุปกรณ์สูบอิเล็กทรอนิกส์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะทั้งในหมู่นักสูบมือใหม่ และมือเก่า ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเนื่องจากมีราคาที่ค่อนข้างถูก อีกทั้งยังมีขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ใช้งานง่าย ดีไซน์สวยงามเหมาะที่จะเป็นอีกหนึ่งแฟชั่น มันจึงกลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับจุดเริ่มต้นเส้นทางสายควันของใครหลายคน
ใครที่กำลังสนใจ pod บอกเลยว่าการมีความรู้พื้นฐานคือสิ่งสำคัญ เพราะไม่เพียงช่วยให้สามารถเริ่มต้นใช้งานได้อย่างถูกวิธี แต่ยังช่วยให้สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ถูกใจ และตรงกับความต้องการของตัวเองที่สุดอีกด้วย
พอตไฟฟ้า คืออะไร
พอตไฟฟ้า อุปกรณ์สูบอิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งที่ใช้กลไกไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อน และไอน้ำออกมา ซึ่งการทำงานหลังเปิดเครื่องจะเริ่มที่แบตเตอรี่ทำให้เกิดความร้อนกับน้ำยาที่อยู่ภายในให้ระเหยขึ้นมากลายเป็นไอ เมื่อทำการสูบเข้าไปร่างกายจะได้รับนิโคติน และพ่นออกมาเป็นควันฟุ้ง ๆ โดยปราศจากการเผาไหม้ และมีกลิ่นหอมต่างจากบุหรี่มวน
แม้บางรุ่นอาจมีขนาดเล็กทำให้มีกำลังไฟต่ำ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะต่อให้กำลังไฟน้อย แต่ก็สามารถใช้คู่กับน้ำยาซอลนิค ซึ่งเป็นน้ำยาที่มีระดับความเข้มข้นของนิโคตินให้เลือกหลากหลายได้ดี โดยระดับนิโคตินที่นิยมใช้กันจะมีตั้งแต่ 20 30 35 40 ถึง 50+ mg ขึ้นไป และทำให้ร่างกายรับนิโคตินได้รวดเร็วกว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดอื่น ๆ ด้วย
นอกจากนี้ตัวบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมสูบยังถูกออกแบบ และปรับแต่งมาให้สะดวกต่อการใช้งานในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น โดยการใช้งาน ผู้สูบไม่จำเป็นต้องมานั่งพันลวด หรือเปลี่ยนสำลีให้ยุ่งยาก เพียงเติมน้ำยา เปลี่ยนคอยล์ ก็สามารถใช้งานต่อได้ทันที
ส่วนประกอบ และคำแนะนำการใช้งาน
หัวพอต หรือหัวแทงก์ (Pod Cartridges)
เป็นส่วนที่ไว้ใช้บรรจุน้ำยา และคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าไว้ภายใน โดยจะมีขนาด และความจุแตกต่างกันออกไป ในแต่ละรุ่น ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 2 - 5 ml ซึ่งบอกเลยว่ามีความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ เพราะลักษณะโครงสร้างของมันส่งผลโดยตรงต่อฟีลการสูบ และรูลมด้วย นอกจากนี้หากใช้ไปนาน ๆ ก็อาจชำรุดหรือเสียหายได้ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะสามารถหารุ่นที่ตรงกันอันใหม่มาเปลี่ยนได้นั่นเอง
และสำหรับใครที่ชอบสูบน้ำยาหลาย ๆ กลิ่น ก็สามารถพกหัวสำรองไว้ถอดเปลี่ยนได้ แต่มีคำแนะนำว่าควรถอดส่วนประกอบของคอยล์ออกมา แล้วนำหัวแทงก์ไปล้างทำความสะอาดบ้าง เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก และกลิ่นน้ำยาเก่าที่อาจปะปน รวมถึงควรถอดหัวพอตออกจากตัวเครื่องเวลานอนหรือช่วงที่ไม่ใช้งานเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยาหก หรือซึมเข้าแบตเตอรี่ได้
คอยล์ (Coil)
ด้านในจะมีขดลวด และสำลีติดอยู่ด้วยกัน โดยสำลีจะทำหน้าที่ดูดซับน้ำยาเอาไว้ เมื่อมีกำลังไฟจากแบตเตอรี่ส่งมาทำให้เกิดความร้อนที่ขดลวด น้ำยาที่อยู่ในสำลีจะเดือดขึ้น และกลายเป็นไอออกมาให้สูบ
คำแนะนำหากคุณเป็นมือใหม่ คือ ช่วงก่อนใช้งานหลังจากติดตั้งคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าเข้าสู่แทงก์ และทำเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ต้องการลงไปแล้ว ควรแช่คอยล์ทั้งไว้สักพักเพื่อให้ตัวสำลีดูดซับน้ำยาเข้ามาก่อน และหมั่นเปลี่ยนคอยล์บ่อย ๆ โดยหลายคนอาจมีคำถามว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องเปลี่ยนตอนไหน คำตอบคือ เมื่อใช้งานไปสักพัก เราอาจรู้สึกว่าควันที่ออกมาเริ่มน้อยลง กลิ่นไม่หอมเหมือนเดิม รวมถึงเวลาสูบเริ่มมีกลิ่นไหม้ นั่นแหละคือสัญญาณบอกว่าควรเปลี่ยนคอยล์ใหม่แล้ว
ตัวเครื่อง (Body)
จะมีส่วนประกอบหลักอยู่ 2 ส่วน คือแบตเตอรี่ และตัวปรับไฟ โดยแบตเตอรี่แต่ละตัวที่ติดมาจะมีความจุมาก หรือน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของบุหรี่พอตที่ซื้อมา และการออกแบบตัวเครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับการออกแบบมาให้เพียงพอต่อการใช้งานสำหรับ 1 วันเต็ม และอาจมีบุหรี่ไฟฟ้าบางรุ่นที่ใช้ถ่านแยกจากตัวเครื่อง ซึ่งข้อควรระวัง คือไม่ควรใช้งานขณะที่กำลังชาร์จแบตเตอรี่ และไม่ควรใช้งานจนแบตเตอรี่หมด เพราะจะทำให้แบตเสื่อมสภาพง่าย
สำหรับส่วนที่ 2 คือ ตัวปรับไฟ ซึ่งมีไว้เพื่อปรับระดับไฟเวลาใช้งานนั่นเอง โดยสามารถเลือกปรับในระดับที่สูบแล้วรู้สึกว่าชอบที่สุดได้เลย
ประเภทของพอตไฟฟ้า
ระบบเปิด
เป็นแบบที่ต้องซื้อน้ำยาเพื่อเติมลงใน Pod Cartridges หรือหัวพอตเปล่าอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากน้ำยาหมดก่อนดูดอาจทำให้เกิดการไหม้ ซึ่งมีข้อดีคือ สามารถเติมน้ำยาเข้าไปใหม่ได้เมื่อหมด เลือกใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้หลากหลายกลิ่น และเปลี่ยนคอยล์เบอร์ต่าง ๆ ได้อิสระตามความต้องการของผู้ใช้
ระบบปิด
มีลักษณะตรงข้ามกับระบบเปิด คือในหัว Pod จะมีน้ำยาบรรจุมาให้เรียบร้อยพร้อมสูบ เมื่อน้ำยาหมด ต้องซื้อหัวพอตใหม่ และใส่แทนเข้าไปเท่านั้น จะไม่สามารถเติมน้ำยาเองได้ และไม่สามารถเลือกค่าโอห์มของคอยล์ได้ แต่พอตบุหรี่ไฟฟ้าระบบปิดมีข้อดี คือ สะดวกสบาย ใช้งานง่าย เพราะไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนคอยล์ หรือเติมน้ำยาเอง แต่ก็ต้องระวังนิดนึงตอนน้ำยาใกล้หมด หากน้ำยาแห้งเวลาดูดจะทำให้เหม็นไหม้ และแสบคอได้
ใช้แล้วทิ้ง
เป็นประเภทที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถใช้จนหมดแล้วทิ้งได้เลย โดยไม่ต้องชาร์จแบต ไม่ต้องเปลี่ยนหัว ไม่ต้องดูแลรักษา ไม่ต้องเติมหรือพกน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าไปไหนมาไหนให้หนักกระเป๋า อีกทั้งยังมีราคาที่ค่อนข้างถูก ทำให้หมดกังวลเรื่องการชำรุด หรือสูญหายอีกด้วย
รวม 3 ปัญหาหลังการใช้ที่ควรรู้ พร้อมวิธีแก้ไข
ชาร์จไฟไม่เข้า
หากเจอปัญหานี้สิ่งแรกที่ต้องสังเกตคือ ตอนนี้กำลังใช้สาย หรือตัวอแดปเตอร์ชาร์จของโทรศัพท์มือถือ หรือเเท็ปเล็ตอยู่หรือไม่ เพราะอุปกรณ์ชาร์จไฟพวกนี้มักถูกออกแบบมาให้ชาร์จไฟรวดเร็ว หรือมีระบบ Fast Charge ซึ่งไม่เหมาะกับบุหรี่ไฟฟ้าอย่างแรง เพราะอาจทำให้ตัวเครื่องร้อนเกินไป สำหรับวิธีชาร์จที่ดีที่สุด คือใช้สาย USB แล้วเสียบเข้ากับซีพียูคอมพิวเตอร์ แต่ถ้าทำตามนี้แล้วแต่ไฟยังไม่เข้า ขั้นตอนถัดไปคือ ลองเปลี่ยนสาย USB ที่ใช้ดู เพราะสายพวกนี้มักเสื่อมสภาพเร็วหากถูกใช้งานหลายครั้งต่อวัน
Pod ไม่ทำงาน
หากกดปุ่มแล้วไม่มีการตอบสนอง ลองเช็กที่แบตเตอรี่ก่อนว่ามีไฟเพียงพอหรือเปล่า และดูที่ไฟสถานะว่ามีการกระพริบอยู่ไหม ถ้าตัวที่ใช้อยู่เป็นระบบ Manual ก็เป็นไปได้ว่าจะมีระบบเปิด / ปิดอยู่ ให้ลองกดปุ่ม 5 ครั้งเพื่อเปิดใช้งานอุปกรณ์ใหม่ แต่ถ้ายังไม่ได้ให้ลองถอดหัวพอตออกแล้วดูว่ามีน้ำยาหกออกมาหรือไม่ เพราะน้ำยาที่รั่วอาจทำให้ระบบหยุดทำงานได้ หลังจากนั้นให้เช็ดน้ำยาที่หกออกมาด้วยทิชชู่ หรือลองเปลี่ยนหัวใหม่ นอกจากนี้เพื่อความชัวร์ก็สามารถใช้ไดร์ หรือพัดลมเป่าตัวเครื่องให้แห้ง หรือนำไปใส่ถุงแล้วแช่ในข้าวสารทิ้งไว้สัก 1 วันก็ได้
ปัญหาพอตรั่ว
เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็ก สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดการรั่วมักเกิดจากพฤติกรรมการสูบ หรือมีข้อบกพร่องจากการผลิต ถ้าใช้เป็นเครื่องระบบปิดแบบเปลี่ยนหัว การสูบที่แรงเกินไปจะทำให้น้ำยาถูกดูดขึ้นจนท่วมคอยล์ และเกิดการรั่วในที่สุด เช่นเดียวกับระบบเปิด นอกจากแรงในการสูบที่เหมาะสมเเล้ว ส่วนใหญ่หัวพอตเปล่าที่ใช้เติมมักปิดผนึกด้วยจุกซิลิโคน ซึ่งจำเป็นต้องใช้พื้นที่ข้างในเล็กน้อย ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ ไม่ควรเติมน้ำยาเติมจนล้น หรือเต็มเกินไป ควรเว้นช่องไว้เล็กน้อยทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นเวลาสูบ ตัวน้ำยาจะถูกดันออกมาจนท่วมคอยล์ได้
จุดเด่น และประโยชน์ที่น่าสนใจ
- ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาไปข้างนอกได้สะดวก
- ใช้งานได้ยาวนานต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้งในเวลาไม่เกิน 1 - 2 ชั่วโมง
- ราคาไม่แพง มีตั้งแต่หลักร้อยต้น ๆ จนถึงหลักพัน
- ประหยัดกว่า เพราะไม่ต้องสูบบ่อย ฟีลสูบแน่น ไม่แทงคอ ใกล้เคียงบุหรี่จริง
- ทำความสะอาด และดูแลรักษาง่าย
- ใช้งานง่าย เปลี่ยนคอยล์ หรือหัวพอตก็ใช้ได้ทันที เหมาะสำหรับคนเพิ่งเริ่ม หรือทดลองใช้
- เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่อยากลด หรือเลิกสูบบุหรี่จริง
- ลดความเสี่ยงในการได้รับสารพิษจากการเผาไหม้ของบุหรี่มวน และสามารถเลือกระดับปริมาณนิโคตินที่ต้องการได้
ข้อเสียที่ควรรู้ก่อนเริ่มใช้ พอตไฟฟ้า
- ระบบเปิด อาจมีการรั่วซึมของน้ำยา
- หากปล่อยให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าหมด หรือแห้งอย่างต่อเนื่องแล้วไม่เติม อาจทำให้เกิดการไหม้
- กลิ่นที่ได้รับ และควันอาจน้อยกว่าบุหรี่ไฟฟ้า
- ประเทศไทยในปัจจุบัน ยังคงเป็นสินค้าที่ยังไม่มีกฏหมายรองรับ ในกรณีที่ผลิต นำเข้า หรือขาย แต่หากเป็นการสูบ หรือมีในครอบครองนั้นไม่ผิดกฏหมายโดยตรง
วิธีการเลือกซื้อให้ถูกใจเหมือนเจอเนื้อคู่
สำหรับผู้ที่อยากลองใช้ และไม่เคยสูบพอตมาก่อน เรามาดูไปพร้อมกันเลยว่าการเลือก pod คู่ใจควรดูจากอะไรบ้าง
เลือกประเภทตามการใช้งาน
ทั้งพอตใช้แล้วทิ้ง แบบระบบปิด และระบบเปิด ต่างมีจุดเด่นที่ต่างกัน เช่น ถ้ามือใหม่อยากทดลองก็อาจเริ่มจากแบบใช้แล้วทิ้งที่ใช้งานง่าย และราคาถูกก่อน หรือจะเลือกใช้เป็นระบบปิดที่ไม่ต้องเติมน้ำยาเองก็ได้
พิจารณาขนาด ดีไซน์ และน้ำหนักของตัวเครื่อง
บุหรี่ไฟฟ้าคือสิ่งที่ต้องพกติดตัวอยู่ตลอด สิ่งสำคัญรองลงมาจึงหนีไม่พ้นเรื่องความสะดวก ซึ่งต้องคำนึงถึงขนาด และน้ำหนักของตัวเครื่อง บางคนอาจไม่ชอบพกสินค้าที่มีขนาดใหญ่เพราะหนัก แต่ก็ต้องดูไปถึงเรื่องความจุของแบตเตอรี่ด้วย เพราะหากเครื่องเล็กก็จะมีความจุแบตเตอรี่น้อย ซึ่งอาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่สูบจัด ๆ หรือใช้งานบ่อย
ความหลากหลายของหัวพอต และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
ส่วนใหญ่เเล้วตัวบุหรี่ไฟฟ้ามักถูกออกแบบมาให้เปลี่ยนหัวเฉพาะจากแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งบางยี่ห้อจะมีรสชาติให้เลือกมากกว่าตัวอื่น รวมถึงน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเองก็มีทั้งฟรีเบส (Freebase) และซอลนิค (Salt Nic) ที่ให้ประสบการณ์การสูบ และข้อดีข้อเสียที่ต่างกัน ซึ่งเลือกได้ตามความชอบ โดยจะมีเครื่องบางรุ่นที่สามารถใช้ได้กับน้ำยาทั้งสองประเภทด้วย
3 อันดับพอตไฟฟ้ายอดฮิต ตัวช่วยตัดสินใจสำหรับมือใหม่
1. อันดับหนึ่ง Vaporesso XROS Pot Kit
เป็นหนึ่งในรุ่น และรสชาติที่ดีที่สุดของ VAPORESSO มีขนาดพอดี น้ำหนักเบา พกพาสะดวก รวมถึงการออกแบบที่สวยงามทันสมัยมีให้เลือกมากถึง 8 สี มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุถึง 1,000 mAh และชาร์จไฟเข้าได้อย่างรวดเร็วผ่านพอร์ต Type-C XROS 3 ไม่ว่าจะเคยใช้ตัวไหนมาก่อน ชอบฟีลสูบ MTL แน่น หรือเบา บอกเลยว่าได้ลองตัวนี้แล้วจะติดใจ
2. อันดับสอง VOOPOO Argus P1
อีกหนึ่งรุ่นที่มีดีไซน์สวยงามชวนหลง และสามารถใช้งานได้รอบด้าน ตัวเครื่องทำจากซิงค์
อัลลอยด์ และโพลีคาร์บอเนตใส ทำให้เห็นการทำงานภายในได้ชัดเจน ตัวพอตมีความคงทน
พกพาสะดวก ให้รสชาติที่ยอดเยี่ยม สามารถปรับแต่งระดับความแน่นของการสูบได้ และใช้กับ PD Charger ได้ ทำให้ที่ชาร์จไฟได้เร็วกว่า Pod vapes ตัวอื่น จึงทำให้ Argus P1 เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของสินค้าที่ดีที่สุด
3. อันดับสาม Uwell Caliburn A3
สำหรับรุ่นนี้จะเป็น Light pod และ Low profile ที่ผลิตโดย Uwell ซึ่งเข้ากันได้ดีกับน้ำยาฟรีเบส และซอลนิค มีกลิ่นหอม และรูปทรงเพรียวบาง พกพาสะดวก มีให้เลือกมากถึง 6 สี โดยจะให้ฟีลการสูบที่พอดี ระดับปานกลาง ไม่แน่นเกินไป สำหรับใครที่กำลังมองหาพอตบุหรี่ไฟฟ้าแบบเรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพบอกเลยว่าตัวนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
สรุป พอตไฟฟ้า
ได้เข้ามาเปลี่ยนวิถีการสูบของผู้คนยุคใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยการออกแบบที่สวยงามทันสมัย มาพร้อมกับรสชาติอันแสนยอดเยี่ยม อีกทั้งยังมีฟังก์ชันอันแสนสะดวก ใช้งานง่าย จึงทำให้มันกลายเป็นหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักสูบมือใหม่ และมือเก่า ถึงแม้การเริ่มต้นใช้งานอาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่อย่าลืมว่าการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสินค้ามีหลายประเภท และยังมีปัญหาที่ควรรู้ รวมถึงข้อดีข้อเสีย ที่ควรศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างถูกวิธี เเละเลือกซื้อสินค้าคู่ใจได้ตรงกับความต้องการมากที่สุดนั่นเอง