พอต RELX Infinity 2 กับฟังก์ชั่นใหม่
พอต RELX Infinity 2 การพัฒนาที่ข้ามก้าวขีดกำจัดเดิมๆจากแบรนด์บุหรี่ไฟฟ้า RELX ที่ใครหลายๆคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเสาหลักของวงการบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าประเภท Close System ที่ผู้ที่สนใจส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ที่อยากเลิกบุหรี่มวน และกำลังหาวิธีเลิกอย่างมีประสิทธิภาพอยู่ เพราะการอย่านิโคตินนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลายๆคน การหักดิบนั้นหากไม่สามารถที่จะเลิกได้ทันทีอย่างเด็ดขาด อาจจะทำให้อาการเหล่านั้นกลับมามีมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นบุหรี่ไฟฟ้าที่พกพาง่ายจึงสามารถตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี
Infinity 2 by RELX
- การออกแบบของ RELX Infinity 2
- RELX Infinity 2 ปุ่มปรับระดับ
- แบตเตอรี่ที่อึดและเร็วขึ้น
- สีสันและที่มาต่างๆ
- สเปคของตัวเครื่อง
- ข้อดีและข้อเสียของ Infinity 2
- สรุป
การออกแบบของ RELX Infinity 2
รูปร่างหน้าตาภายนอก ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสินค้าหลายๆประเภท RELX Infinity 2 ก็เช่นกัน หรือหากพูดให้ถูกนั้น ทางแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง RELX คงไม่ยอมให้สินค้าของตัวเองออกมาดูไม่ดีแน่นอน และการออกแบบที่เรียบง่ายมีความเรียบหรูอยู่ในตัวโดยที่ไม่ต้องมีการออกแบบที่หวือหวา ทำให้ผู้ใช้หลายคนต่างหลงไหลในรูปร่างและหน้าตาสินค้าของเจ้านี้มานักต่อนักแล้ว และการออกแบบของ Infinity 2 ก็ยังคงเอกลักษณ์เอาไว้แต่จะมีการเพิ่มไฟ LED เอาไว้รอบๆไฟแสดงผลแบตเตอรี่ สำหรับฟังก์ชั่นการใช้งานหใม่ที่เพิ่มเข้ามา
RELX Infinity 2 ปุ่มปรับระดับ
เป็นการเขย่าวงการบุหรี่ไฟฟ้าระบบปิดกันอีกแล้วกับ Infinity 2 ที่ได้ทำในสิ่งที่เจ้าอื่นต่างกันไม่กล้าทำ นั้นก็คือการเพิ่มปุ่มปรับระดับเข้ามาในพอตรูปแบบ Close System ที่จะเน้นการใช้งานที่เรียบง่ายเพียงแค่สูบไม่ต้องกดหรือทำอะไรทั้งนั้น แต่แน่นอนว่าแบรนด์ที่เป็นผู้นำกระแสมาตลอดนั้นจะไม่กล้าที่จะเพิ่มปุ่มเข้ามาได้อย่างไรกัน โดยการมาของปุ่มกดในครั้งนี้ สามารถที่จะปรับโหมดการใช้งานได้ 3 แบบดังนี้
- ECO Mode โหมดประหยัดพลังงานที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานไปได้ถึง 65% และยังทำการการใช้ปริมาณน้ำยาลดลงด้วย โดยโหมดนี้จะจ่ายไฟอยู่ที่ 5.5w และจะแสดงผลสีไฟ LED เป็นสีเขียว
- Smooth Mode โหมดการสูบที่ลื่นไหล จะเน้นการจ่ายไฟที่นิ่งและเสถียร ทำให้การสูบนั้นไม่ติดขัด โดยจะจ่ายไฟอยู่ที่ 6.5w และมีสีไฟ LED เป็นสีฟ้า
- Boost Mode โหมดบูสท์รสชาติ เป็นโหมดที่ระเบิดรสชาติออกมาได้ชัดเจนไม่ว่ากลิ่นจะจางแค่ไหนก็ตาม และยังให้ปริมาณควันที่มากกว่าโหมดอื่นถึง 15% โดยโหมดนี้จะใช้ไฟถึง 8w และแสดงสี LED เป็นสีม่วง
แบตเตอรี่ที่อึดและเร็วขึ้น
คงเรียกได้ว่าทำเอาใครหลายๆคนต้องตกใจกันแน่นอนกับการที่บุหรี่ไฟฟ้าตัวนี้ได้เพิ่มปริมาณแบตเตอรี่ โดยหากเพื่อนๆเป็นผู้ใช้งานหรือเคยเห็นรุ่นๆผ่านตากันมาบ้าง จะทราบกันดีกว่าระดับปริมาณแบตเตอรี่ของทางแบรนด์จะอยู่ที่ราวๆ 380mAh มาโดยตลอด ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวันอยู่แล้ว เพียงแต่หากเพื่อนๆเป็นผู้ใช้งานที่ลากยาวยันถึงฟ้ามืด คงอาจจะไม่พอในช่วงสังสรรค์ หรือช่วงที่ดึกมากแล้วแน่นอน จึงได้พัฒนาเพิ่มปริมาณแบตเตอรี่เข้าไปให้ได้สูงสุด ของนวัตกรรมตอนนี้ซึ่งก็คือ 440mAh แต่แน่นอนว่าทางแบรนด์ รู้ดีอยู่แล้วว่าตนนั้นไม่ใช่เจ้าแรกที่ให้ปริมาณแบตเตอรี่ในระดับนี้ จึงได้ทำการค้นคว้าและวิจัยเพื่อให้ตัวแบตเตอรี่ของทางแบรนด์นั้นสามารถรองรับการชาร์จที่รวดเร็วกว่าเจ้าอื่นได้ หากสินค้าตัวอื่น สามารถชาร์จแบบ Fast Charge ได้ ทาง RELX ก็ต้องทำได้เหนือยิ่งกว่าด้วยการชาร์จแบบ Ultra Fast Charge ที่สามารถชาร์จได้เร็วกว่าถึง 130% โดยสามารถชาร์จที่ 0 – 80% ได้ภายในระยะเวลาเพียง 15 นาที ทำให้ถือได้ว่าเป็นพอตที่ชาร์จได้เร็วที่สุดแล้วในตอนนี้ เป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดดจริงๆสำหรับ relx ตัวใหม่ที่กุมลูกเล่นเอาไว้มากมาย
สีสันและที่มาต่างๆ
โดยการคัดสรรสีแต่ละตัว ได้ถูกเลือกมาเป็นอย่างดีโดยได้อิงข้อมูลการเลือกใช้งานจากผลสำรวจและประกอบกับการตัดสินใจของเหล่าทีมออกแบบ ที่ทำให้การสีที่ออกมาในคราวของนี้ของอินฟินิตี้ 2 ดูมีสง่าราศีน่าจับต้องจริงๆ การเลือกสีสันในครั้งนี้จำเป็นจะต้องทำการเลือกสีที่เข้ากับการออกแบบใหม่ที่มีการเพิ่มไฟ LED บอกสถานะโหมดการใช้งานที่เข้ามา หากผู้พัฒนาเลือกสีมั่วๆตามใจตัวเองนั้นก็คงได้กลายเป็นจุดด่างพร้อยของรุ่นนี้อย่างแน่นอน แต่จะมีสีอะไรที่มาที่ไปอย่างไร เรามาดูกันได้เลย
- Obsidian Black เป็นสีที่มาจากแร่ Obsidian ที่มีความดำที่สุด และยังถือได้ว่าเป็นแร่ที่มนุษย์ในยุคหนึ่งนำมาใช้เป็นอุปกรณ์ที่มีความคมสูงอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเป็นสีที่มีความเรียบง่ายและเท่ไปด้วยในตัว
- Dark Asteroid เป็นสีที่อิงจากสีดาวเคราะห์น้อยต่างๆที่เรามักจะพบเห็นเป็นสีเทา ซึ่งสาเหตุที่มีสีเทานั้นก็เพราะว่าดาวเคราะห์น้อยเหล่านี้ มีสสารเป็นธาตุดินต่างๆเช่น เหล็ก โลหะ และ นิกเกิล เป็นหลักทำให้สีที่ออกมานั้นมีความเทาๆ ให้ความรู้สึกดุดันต่อผู้ใช้งาน
- Meteor Flash เป็นสีเทาอ่อนที่ทำให้คลายกับแสงของดาวตกที่ผ่านไปในยามค่ำคืนเป็นแสงอ่อนๆในช่วงเวลากลางคืนที่มืดมิด ไม่สว่างจนเกินไปและก็ไม่ได้มืดจนเกินไป เป็นสีที่ผ่อนคลายและสงบ
- Pearl Glitter สีขาวไข่มุกที่เพิ่มความสวยงามของสีด้วยการเพิ่มความระยิบระยับเข้าไป ทำให้เปล่งประกายยิ่งขึ้นไปอีก ให้ความรู้สึกับผู้ใช้ราวกับกำลังถือสมบัติล้ำค่าแห่งท้องทะเลเอาไว้ในกำมือ
- Green Navy สีเขียวขี้ม้าที่ใช้กันในกองทัพที่เน้นการอำพรางในป่าเขาแต่กลับพอนำมาใช้เป็นสีของตัวเครื่องแล้วกลับมีความสวยไม่เหมือนใคร ให้ความกลมกลืนกับผู้ใช้งานและดุดันไปด้วยในตัว
- Blue Bay สีน้ำทะเลหาดทรายหรือสีฟ้าอ่อนที่มีความสวยสบายตาริมหาดที่น้ำทะเลใสสะอาดจนเห็นเป็นสีฟ้าอ่อน ราวกับพกการพักร้อนเอาไว้ในมือ
- Royal Indigo สีครามม่วงเป็นสีม่วงที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุดเพราะเป็นการลอกเลียนแบบสีบนหัวนกอินดิโกที่มีลำตัวเป็นสีฟ้าและบางตัวจะมีสีม่วงอยู่บนหัว ให้ความสวยหรูในสีสันแบบธรรมชาติ
- Cherry Blossom สีชมพูอ่อนสไตล์ญี่ปุ่น เป็นการอิงสีของดอกไม้ชื่อดังประจำถิ่นอย่างดอกซากุระที่ใครๆก็ต่างรู้จักกัน ถือได้ว่าเป็นสีชมพูที่เข้ากับทุกเพศจริงๆ
สเปคของตัวเครื่อง
- ระบบการสูบ : อัตโนมัติ
- ไฟแสดงผล : :LED
- แรงดันไฟสูงสุด : 15A
- แบตเตอรี่ : 440mAh
- การชาร์จ : USB Type-C
- ระยะเวลาการชาร์จ : 27 นาที
- รองรับหัวพอต : Infinity และรุ่นที่ขนาดเท่ากัน
ข้อดีและข้อเสียของ Infinity 2
ข้อดี
- มีขนาดเล็กพกพาง่าย
- ชาร์จไฟเต็มภายใน 27 นาที
- สามารถปรับการจ่ายไฟได้
- ดึงกลิ่นน้ำยาออกมาได้ดี
- การออกแบบที่สวยงาม
- รองรับหัวพอตได้หลายรุ่น
- ช่วยในการเลิกบุหรี่มวนได้
ข้อเสีย
- สูบได้แค่แบบ MTL
- ปรับรูลมไม่ได้
- ไม่สามารถเติมน้ำยาได้
- ปริมาณควันไม่เยอะ
สรุป
Infinity 2 ถือได้ว่าเป็นพอต อินฟินที่มีความน่าใช้งานเป็นอย่างสูง ด้วยระบบปุ่มปรับโหมดที่เพิ่มเข้ามาทำให้การสูบนั้นไม่จำเจและยังเลือกให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ แบตเตอรี่ที่มีการเพิ่มปริมาณและรองรับการชาร์จที่รวดเร็วที่สุดในตอนนี้ สีสันที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีให้เข้ากับผู้ใช้งานหลายๆท่าน ใช้งานง่ายมือใหม่ก็ใช้งานได้ เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยความคุ้มค่า ควรค่าแกการเปลี่ยนพอตเดิมที่มีเป็นอย่างยิ่ง
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์